เลือกประเภทของประตูให้ดี เพื่อเชื่อมพื้นที่ภายในบ้าน 

เลือกประเภทของประตูให้ดี เพื่อเชื่อมพื้นที่ภายในบ้าน 

เลือกประเภทของประตูให้ดี เพื่อเชื่อมพื้นที่ภายในบ้าน 

นอกจากการบริหารจัดการพื้นที่ทั้งหมดภายในบ้านให้เป็นสัดส่วนจะช่วยให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่าทุกตารางนิ้วแล้ว เราก็ควรให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงพื้นที่แต่ละส่วนเข้าหากันด้วย เพื่อให้เกิดความสะดวกในการใช้งาน และสร้างบรรยากาศโดยรวมให้มีความโปร่งโล่งสบาย นอกจากนี้ การเชื่อมพื้นที่ยังมีส่วนช่วยให้คนในครอบครัวมีพื้นที่ในการปฏิสัมพันธ์ต่อกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วย

“ประตู” ตัวช่วยในการเชื่อมต่อที่เหมาะกับบ้านทุกสไตล์

เลือกประเภทของประตูให้ดี เพื่อเชื่อมพื้นที่ภายในบ้าน 

ความจริงแล้ว การเชื่อมโยงพื้นที่ภายในบ้านนั้นทำได้หลากหลายวิธี มีตั้งแต่การออกแบบพื้นที่ใช้สอยเอาไว้ตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ไปจนถึงการใช้สีสันและวิธีวางเฟอร์นิเจอร์ในภายหลัง ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้าน ว่าจะสะดวกแบบไหนมากกว่า โดยเทคนิคที่พบเห็นได้บ่อยก็คือ การใช้โทนสีของพื้นและผนังแบบเดียวกัน การเปิดพื้นที่ถึงกัน การใช้ลูกเล่นเกี่ยวกับผิวสัมผัสของทางเดินเหมือนกัน การใช้ของตกแต่งที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น แต่ถึงอย่างนั้นการเลือกใช้ประตูที่มีช่องเปิดขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้มองเห็นทิวทัศน์ และสัมผัสบรรยากาศของพื้นที่ข้างเคียงได้ ก็ยังเป็นวิธีการที่ปรับใช้ได้ง่ายที่สุดอยู่ดี ดังนั้น การทำความรู้จักกับประตูแต่ละประเภท พร้อมเข้าใจในคุณสมบัติเด่นเฉพาะตัว ก็จะช่วยให้เราสร้างสรรค์การเชื่อมต่อพื้นที่ได้อย่างลงตัวมากขึ้น

ประตูบานเลื่อน

เลือกประเภทของประตูให้ดี เพื่อเชื่อมพื้นที่ภายในบ้าน 

จุดเด่นอย่างแรกของประตูบานเลื่อนก็คือ ช่วยประหยัดพื้นที่ในการใช้งานประตูได้มาก เพราะใช้วิธีเลื่อนบานประตูออกทางด้านข้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะแนบไปกับผนังเลย หรือไม่ก็ทำช่องเก็บซ่อนบานประตูเอาไว้ จึงสามารถเปิดค้างไว้ให้เหมือนกับตรงนั้นไม่มีประตูกั้นอยู่ได้ เป็นการเพิ่มพื้นที่แบบง่ายดายที่สุด โดยประตูบานเลื่อนจะมีให้เลือก 2 แบบ ระหว่างแบบรางเลื่อนที่ติดตั้งไว้ด้านล่าง กับรางเลื่อนที่ยึดไว้ด้านบน ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีคนละอย่าง ขึ้นอยู่กับพื้นที่หน้างานว่าเราต้องการอะไร แนวทางในการใช้ประตูเลื่อนมาเชื่อมพื้นที่ในบ้านก็คือ ให้เลือกขนาดของประตูที่ค่อนข้างใหญ่ มีน้ำหนักเบา จะใช้เป็นบานเลื่อนเดี่ยวหรือคู่ก็ได้ทั้งนั้น และถ้าพื้นด้านล่างไม่ได้ทำแบบต่างระดับเอาไว้ ก็ควรใช้แบบรางเลื่อนด้านบน เวลาเดินผ่านจะได้ไม่รู้สึกว่ามีเส้นกั้นที่พื้น คนที่เดินผ่านก็จะรู้สึกได้ถึงการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์ ไม่รู้สึกเหมือนมีอะไรกั้น

ประตูบานเฟี้ยม

เลือกประเภทของประตูให้ดี เพื่อเชื่อมพื้นที่ภายในบ้าน 

ก่อนหน้านี้ประตูบานเฟี้ยมมักจะถูกมองว่าเป็นของโบราณ ต้องอยู่กับบ้านไม้เก่า ๆ หรือร้านขายของชำที่เปิดขายมานานหลายสิบปีแล้ว แต่หลังจากเปลี่ยนวัสดุในการผลิตให้หลากหลายขึ้น มีทั้งงานคอมโพสิต โลหะ ขัดเงา พลาสติก และกระจก ก็กลายเป็นประตูที่ถูกเลือกใช้กับบ้านสไตล์ใหม่ ๆ เรื่อยมา ลักษณะของประตูบานเฟี้ยมจะเป็นประตูทรงสูงที่มีความกว้างไม่มากนัก นำมายึดต่อกันหลาย ๆ บาน เวลาใช้งานก็จะเปิดแบบพับบานสลับไปมา คล้ายกับรอยพับของพัดจีน วิธีการใช้สำหรับเชื่อมพื้นที่ก็ไม่มีอะไรมาก ให้เลือกประตูบานเฟี้ยมมีส่วนประกอบของกระจกรวมอยู่ด้วย เมื่อพับบานประตูเก็บด้านข้างจะต้องกินพื้นที่น้อย และจำเป็นที่จะต้องติดตั้งพร้อมรางยึดด้านบนเสมอเพื่อไม่ให้ประตูแกว่งไปมา หรือจะติดตั้งรางยึดทั้งด้านบนและด้านล่างเลยก็ได้

ประตูบานสวิง

เลือกประเภทของประตูให้ดี เพื่อเชื่อมพื้นที่ภายในบ้าน 

ลักษณะของบานประตูสวิงจะมีอยู่หลายแบบ บางรุ่นก็คล้ายกับประตูบานเฟี้ยม บางรุ่นก็เหมือนประตูบานเปิดทั่วไป แต่ส่วนที่แตกต่างคือวิธีการยึดบริเวณจุดหมุน ที่ทำให้ประตูสามารถผลักเข้าหรือออกก็ได้ เป็นการเปิดบานแบบ 180 – 360 องศา ยิ่งเปิดได้มุมกว้างเท่าไรก็ยิ่งมีราคาแพง ส่วนใหญ่นิยมใช้ติดตั้งในจุดที่ต้องการเข้าออกได้ทั้ง 2 ด้าน เช่นเดียวกับที่เราพบได้ตามห้างสรรพสินค้านั่นเอง แต่ถ้าต้องการนำมาใช้เพื่อเชื่อมพื้นที่ภายในบ้าน ก็แนะนำว่าให้เลือกใช้กับช่องเปิดที่ไม่ใหญ่มาก เน้นงานดีไซน์ที่มีน้ำหนักเบาและมองทะลุผ่านได้ อย่าลืมว่าต้องเลือกกรอบประตูให้กลมกลืนไปกับสีของผนังด้านข้าง หรืออย่างน้อยก็ให้สอดคล้องกับวัสดุตกแต่งที่อยู่ในบริเวณนั้นด้วย

ประตูบานเปิด

เลือกประเภทของประตูให้ดี เพื่อเชื่อมพื้นที่ภายในบ้าน 

เนื่องจากเป็นประตูที่หาซื้อได้ง่าย มีวัสดุให้เลือกหลากหลาย และยังใช้ได้กับทุกพื้นที่ภายในบ้าน จึงทำให้ประตูบานเปิดได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ลักษณะการใช้งานจะเป็นการสวิงบานประตูให้เปิดเข้าหรือเปิดออก และยังมีรูปแบบให้เลือกอีกว่า จะใช้เป็นบานเปิดเดี่ยวหรือบานเปิดคู่ก็ได้ เทคนิคในการใช้ประตูบานเปิดกับการเชื่อมพื้นที่ในบ้านก็คือ ให้เลือกใช้บานเปิดคู่ขนาดใหญ่และเปิดได้แบบ 180 องศาเสมอ เพื่อให้เกิดความรู้สึกโล่งกว้าง และมีช่องให้อากาศหมุนเวียนได้มากขึ้น หากเป็นจุดที่เปิดค้างได้ ควรมีการติดตั้งหมุดกันกระแทก และตัวล็อกบานประตูเวลาเปิดค้างเอาไว้ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเลือกพื้นผิวของประตูให้สอดคล้องกับการตกแต่งของห้องถัดไปได้ด้วย
ในส่วนของประตูบานเปิดนี้ ถ้ายังนึกไม่ออกว่าแต่ละตัวเลือกมันแตกต่างกันอย่างไร ก็สามารถดูตัวอย่างผลิตภัณฑ์ Bathic ของเราก่อนได้ โดยวัสดุยอดนิยมจะมีทั้งกลุ่มของ PVC uPVC และ WPC นอกจากวัสดุที่เลือกได้เต็มที่ตามความต้องการใช้งานแล้ว ก็ยังเลือกลวดลาย และผิวสัมผัสของบานประตูได้ด้วย จะชอบแบบเรียบง่าย คลาสสิค หรือโดดเด่นสะดุดตา เราก็มีผลิตภัณฑ์ไว้รองรับทั้งหมด หากมาแล้วก็ยังตัดสินใจเลือกไม่ได้ สามารถขอรับคำปรึกษากับทีมงานผู้เชี่ยวชาญ เรามีตัวอย่างที่น่าจะสร้างไอเดียใหม่ๆ ให้คุณได้ด้วยเช่นกัน

จะเห็นว่าประตูแต่ละแบบ ก็มีความน่าสนใจแตกต่างกันไป การเลือกใช้ประตูที่หลากหลายในบ้านหลังเดียว แม้จะยุ่งยากในการบำรุงรักษาไปบ้าง แต่ก็ช่วยสร้างเสน่ห์ให้กับส่วนต่างๆ ของตัวบ้านได้ไม่น้อยเลย และยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเราสามารถเชื่อมต่อพื้นที่ทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งภายในและภายนอกตัวบ้าน เราจะพบว่าสภาพแวดล้อมจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พร้อมกับได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่บางส่วนซึ่งไม่เคยถูกใช้มาก่อนเลยด้วย

 

สนใจสินค้าเพิ่มเติม คลิก

กลับสู่หน้าหลัก

 

เขียนโดย : RIGEL

บทความอื่นๆ

  • เมนู