รีโนเวทบ้านไม้สไตล์ดั้งเดิมให้ดูทันสมัย ทำได้ง่ายๆ แค่เปลี่ยนบานประตู

สำหรับคนที่มีบ้านไม้เก่าอยู่แล้ว จะเป็นมรดกตกทอดมาจากครอบครัว หรือว่าซื้อหามาด้วยความชื่นชอบส่วนตัวก็ตาม นอกจากการบำรุงรักษาเนื้อไม้ด้วยวิธีการมาตรฐาน อย่างเช่น เคลือบเงาเนื้อไม้ ทาสีใหม่ กำจัดแมลงที่มากัดกินเนื้อไม้จนผุกร่อน และซ่อมแซมส่วนที่เสียหายจากความชื้น เราก็สามารถปรับโฉมใหม่ให้ตัวบ้านมีความทันสมัยมากขึ้นได้ โดยยังคงรักษามนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหลของบ้านไม้เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน

ประตูเปลี่ยน บรรยากาศเปลี่ยน

นี่เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่มักมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย เราไม่จำเป็นต้องรื้อโครงสร้างเดิม ต่อเติมโครงสร้างใหม่ หรือทำการตกแต่งชุดใหญ่ เพื่อให้ได้ภาพลักษณ์ของตัวบ้านที่แตกต่างไปจากเดิม เพียงแค่เปลี่ยนชุดประตูที่ใช้อยู่ ก็อาจจะสร้างมุมมองใหม่ ๆ และทำให้เกิดความรู้สึกใหม่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ และในกรณีของบ้านไม้เก่าที่เลือกใช้วัสดุหลักเป็นไม้ธรรมชาติ จะมีข้อดีตรงที่ผิวสัมผัสของเนื้อไม้สามารถเข้ากันได้กับวัสดุหลากหลายชนิด ดังนั้น สไตล์ของบานประตูที่เราจะนำมารีโนเวทใหม่ ก็เลยมีตัวเลือกที่ค่อนข้างกว้างด้วยเช่นกัน และต่อไปนี้ก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจ ซึ่งสามารถปรับใช้ได้กับบ้านไม้ทุกหลัง

เพิ่มมุมมองให้กว้างขึ้นสำหรับห้องนั่งเล่น

ใครว่าประตูกระจกบานใหญ่เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์นเท่านั้น บ้านไม้ก็เราสามารถนำประตูกระจกมาใช้กับมุมนั่งเล่นในบ้านไม้ได้เช่นกัน ยิ่งถ้ามุมนั้นมองออกไปแล้วเห็นสวนหย่อมข้างบ้าน ยิ่งช่วยเสริมให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น โดยสามารถเพิ่มความเก๋ได้ด้วยการเลือกใช้เป็นบานเฟี้ยมหรือบานเลื่อนก็ได้ จุดแข็งอีกอย่างหนึ่งของการใช้บานกระจกที่เปิดออกด้านข้างคือ ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้งาน สวนด้านนอกกับมุมนั่งเล่นด้านในจึงใกล้ชิดกันมาก ทำให้รู้สึกเหมือนนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเลยทีเดียว

เพิ่มจุดสนใจให้กับประตูที่อยู่ด้านนอกสุด

จะเป็นประตูทางเข้าด้านหน้า ประตูที่ระเบียง หรือประตูหลังบ้าน ก็สามารถใช้แนวคิดนี้ได้ คือเลือกใช้ประตูกระจกทรงสูงที่เป็นบานเปิดคู่ โดยจะเลือกกรอบประตูเป็นวัสดุชนิดใดก็ได้ ยิ่งนำมาใช้ร่วมกับช่องแสงด้านบนที่เป็นกระจกหลากสี ความสดใสของช่องกระจกด้านบนจะลดความทึมทึบของบ้านไม้ได้ดี และประตูทรงสูงจะช่วยให้รู้สึกโปร่งสบายมากขึ้น ในส่วนของประตูหน้า ถ้าการใช้กระจกใสทำให้รู้สึกสูญเสียความเป็นส่วนตัว เราสามารถเลือกเป็นกระจกฝ้ากัดลาย หรือใช้ผ้าม่าน 2 ชั้นมาตกแต่งด้านในได้ แต่ถ้าทำแล้วก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจ ก็สามารถทำเป็นประตู 2 ชั้นเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวให้มากขึ้นอีกหน่อยก็สามารถทำได้

เพิ่มความมีสีสันให้กับห้องนอนด้วยประตู uPVC

ข้อดีของประตูBathic uPVC คือมีความแข็งแรงทนทาน และเลือกรูปแบบงานดีไซน์ที่หลากหลายได้ เราสามารถเปลี่ยนจากประตูไม้ชุดเดิม ให้เป็นประตู uPVC ที่มีขนาดเท่ากัน หรือใกล้เคียงกับของเดิมได้เลย หรือจะรื้อผนังบางส่วนแล้วขยายขนาดประตู เพื่อเพิ่มความแตกต่างก็ได้ นอกจากจะทำให้เกิดบรรยากาศแปลกใหม่แล้ว ยังทำให้บ้านกว้างขวาง รู้สึกโปร่งโล่งสบายมากขึ้นอีกด้วย และอย่าลืมเลือกสีสันของบานประตูให้เชื่อมโยงกับสิ่งของบางอย่างภายในห้องที่ไม่ใช่ลายไม้ เช่น ถ้าตกแต่งภายในด้วยสีฟ้าเยอะ ก็ใช้ประตูสีฟ้า เป็นต้น สำหรับคนที่ชื่นชอบไอเดียนี้ การเลือกดูรูปแบบของประตู uPVC จากผู้จำหน่ายก่อน ก็จะช่วยให้จินตนาการถึงภาพสุดท้ายหลังการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น และถ้าไม่แน่ใจว่าจะไปเลือกที่ไหนดี Bathic ของเราก็มีสินค้าในกลุ่มนี้ไว้ให้บริการด้วยเช่นกัน

เพิ่มทางผ่านของลมด้วยประตูบานเกล็ด

ความยากของการใช้ประตูบานเกล็ด อยู่ที่การเลือกขนาดและรูปทรงของประตูบานเกล็ดนั้น ควรเลือกประตูที่มีทรงสูงผอม และมีขนาดของเกล็ดค่อนข้างเล็กละเอียด จะดูเข้ากับบ้านไม้เก่าได้ดีกว่า และยังทำทำให้ดูมีความทันสมัยมากกว่าด้วย ยิ่งถ้าเกล็ดแต่ละอันมีระยะห่างที่เหมาะสม จนสามารถมองเห็นห้องอีกฝั่งได้เล็กน้อย ก็ยิ่งดีมากขึ้นอีก เพราะมันจะเกิดความเชื่อมโยงของพื้นที่โดยอัตโนมัติ และประตูบานเกล็ด ควรเลือกเป็นวัสดุอื่นที่ไม่ใช่ไม้ เพื่อสร้างสัมผัสที่แตกต่าง เช่น พลาสติก โลหะ เป็นต้น จะเป็นโทนสีขาวไปเลยก็ได้ หรือจะเลือกเป็นสีสันสดใสก็ไม่เลวนัก นอกจากเรื่องรูปแบบแล้ว ความแข็งแรง และความสะดวกในการใช้งานของบานเกล็ดก็สำคัญมาก อย่าลืมตรวจเช็กสภาพให้ครบถ้วน ก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง

ไม่เปลี่ยนบานใหม่แต่ประยุกต์ใช้จากบานประตูเก่า

ถ้ายังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนประตูชุดใหม่ เราก็สามารถปรับเปลี่ยนบานประตูเดิมแทนก่อนได้ โดยการถอดบานประตูออกมาทำความสะอาด ขจัดคราบที่เกาะติดอยู่บนพื้นผิวออกให้หมดจด ถ้าพื้นผิวเดิมเป็นงานทาสี ควรใช้กระดาษทรายละเอียด ขัดวนจนผิวหน้าหลุดลอกออกหมด หากรู้สึกว่า การขัดนั้นใช้เวลานานเกินไป เพราะสีที่ทาไว้ค่อนข้างหนา จะเริ่มด้วยกระดาษทรายหยาบก่อนก็ได้ แต่ต้องระวัง ไม่ให้ความหยาบนั้นมากเกินไป มันจะกลายเป็นการทำลายวัสดุประตูไปโดยไม่จำเป็น แต่ถ้าผิวหน้าไม่ได้ทาสี ก็ห้ามให้ใช้แปรงขัดแทนกระดาษทราย จัดการแค่คราบฝังแน่นเท่าที่พอขัดออกได้ก็พอ หากมีส่วนที่สึกหรอก็ซ่อมแซมให้ดีเสียก่อน แล้วค่อยตกแต่งตามที่เราต้องการ หรือจะเจาะช่องเพื่อติดตั้งกระจกใส ทาสีเคลือบที่เป็นโทนสีใหม่ หรือจะเปลี่ยนผิวสัมผัสที่หน้าบานประตูไปเลยก็ได้ อันนี้อยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคนแล้ว แต่ไม่ว่าจะเลือกทำแบบไหน ก็รับรองได้ว่าบ้านไม้หลังเก่าจะมีรูปลักษณ์ที่น่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน

สิ่งเดียวที่ต้องระวังสำหรับการปรับปรุงประตูบานเก่าก็คือ อย่าทำอะไรก็ตามที่ส่งผลต่อขนาดของบานประตู ไม่อย่างนั้นเราอาจจะใส่กลับเข้าไปใหม่ไม่ได้ หรือใส่ไปแล้วอาจจะเกิดช่องว่างระหว่างประตู กลายเป็นว่าสุดท้ายเราก็ต้องหาซื้อบานประตูใหม่มาเปลี่ยนอีก ทำให้เสียทั้งเงินและเวลาไปอย่างน่าเสียดาย

สนใจสินค้าเพิ่มเติม คลิก

กลับสู่หน้าหลัก

เขียนโดย : RIGEL